ลาการ์ดมั่นใจว่าสหรัฐอเมริกา จะไม่ผิดนัดหมายใช้หนี้ -

คริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปรายงานในการให้สัมภาษณ์กับ CBS (NYSE:CBS_old) ในรายการข่าวสาร “Face the Nation”

เศรษฐศาสตร์ ว่าคุณไม่คิดว่าสหรัฐอเมริกา จะผิดนัดใช้หนี้ใช้สิน โดยมั่นใจว่าถ้าเกิดเกิดขึ้นจริงผลลัพท์ที่ตามมาจะมีผลร้ายไปทั้งโลก “ฉันมีความแน่ใจอย่างยิ่งในอเมริกา” นางลาการ์ดกล่าว “ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะปลดปล่อยให้หายนะครั้งใหญ่แบบนี้เกิดขึ้น” คุณกล่าวเสริม “ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้น มันจะส่งผลเสียในทางลบเป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะแต่กับประเทศนี้ ซึ่งความไว้ใจจะถูกทำลาย แต่ว่ารวมทั้งทั่วทั้งโลกด้วย” ลาการ์ดกล่าวเสริม คิดออกว่าสหรัฐอเมริกา อยู่ในภาวการณ์หนี้เปี่ยมล้นตัว แต่ว่าคณะผู้บริหารของผู้นำโจ ไบเดน การันตีว่าจะไม่มีการพูดจาเพดานหนี้สินกับเควิน แม็กคาร์ธีประธานที่ประชุมผู้แทน ที่อยากให้ปรับเพิ่มเพดานการปรับลดค่าใช้จ่าย สถานะการณ์ในที่สุดที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2011 แล้วก็ส่งผลให้เกิดการยกธงขาวของผู้นำบารัค โอบามา ซึ่งตกลงที่จะลดการใช้จ่ายกว่า 2,000 พันล้านดอลลาร์ในตอนทศวรรษ

ลาการ์ดมั่นใจว่าสหรัฐอเมริกา จะไม่ผิดนัดหมายใช้หนี้

ภายหลังสถาบันจัดลำดับ Standard & Poor’s ปรับลดชั้นความน่านับถือของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรก

ลาการ์ด แล้วก็ เยลเลน มีความรู้สึกว่าวิกฤติสินเชื่อช่วยลดเหตุจำเป็นสำหรับ ข่าวเศรษฐศาสตร์ การขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย Lagarde พูดว่าวิกฤติสินเชื่อที่ จำกัด อาจจะก่อให้งานของ ECB ง่ายมากยิ่งขึ้น “ถ้าหากพวกเขาไม่ปลดปล่อยกู้มากจนเกินความจำเป็นรวมทั้งจัดแจงการเสี่ยงได้ ก็จะลดงานที่พวกเราจำเป็นต้องทำเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ” นางลาการ์ดกล่าว “แม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเขาลดเครดิตเยอะเกินไป มันจะหนักเหลือเกินกับการเจริญเติบโต” คำกล่าวกลุ่มนี้สะท้อนคำบอกเล่าของเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อวันเสาร์ว่า มาตรการที่ใช้เพื่อยับยั้งภัยรุกรามเชิงระบบที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ประสบผลสำเร็จของแบงค์ในซิลิคอนวัลเลย์และก็แบงค์สิกข์เนพบร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำให้กระแสการเงินฝากมีเสถียรภาพ “แล้วก็สิ่งต่างๆก็สงบลง” “แบงค์มีลัษณะทิศทางที่จะระแวดระวังเยอะขึ้นเรื่อยๆนิดหน่อยในสิ่งแวดล้อมนี้” นางเยลเลนรายงานในการสัมภาษณ์ พร้อมเสริมว่า “พวกเราได้มองเห็นมาตรฐานการให้กู้หนี้ยืมสินที่ครัดเคร่งขึ้นในระบบแบงค์แล้วก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งอาจมีมากยิ่งกว่านี้ในอนาคต” คุณวินิจฉัยว่าสิ่งนี้จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการจำกัดสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจ ซึ่ง “สามารถชดเชยการปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย“